การพัฒนาเว็บเพจ

บทนำ
                การพัฒนาเว็บเพจนับเป็นศาสตร์หนึ่งที่นักคอมพิวเตอร์ และผู้สนใจทั่วไปสนใจที่จะศึกษา เพื่อสร้างสรรค์ผลงานชิ้นงานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเผยแพร่สู่สายตามวลชนอย่างกว้างไกลซึ่งเว็บเพจหรือเอกสารเว็บมีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับเอกสารงานพิมพ์ทั่วไป คือประกอบด้วยหน้าเว็บมากกว่า 1 หน้า โดยมีหน้าแรกเป็นหน้าปก การออกแบบและพัฒนาเว็บเพจ สามารถทำได้หลายระบบ ขึ้นอยู่ศึกษาถึงหลักการพัฒนาเว็บเพจจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่ง

เว็บเพจ
                เว็บเพจหรือเอกสารเว็บมีองค์ประกอบคล้ายคลึงกับเอกสารงานพิมพ์ทั่วไป คือประกอบด้วยหน้าเว็บมากกว่า 1 หน้าโดยมีหน้าแรกเป็นหน้าปก แต่มีการเรียกชื่อแตกต่างจากเอกสารงานพิมพ์ทั่วไป

โปรแกรมสร้างเว็บเพจ
                การพัฒนาเว็บเพจนับเป็นศาสตร์หนึ่งที่นักคอมพิวเตอร์ และผู้สนใจทั่วไปสนใจที่จะศึกษา เพื่อสร้างสรรค์ผลงานชิ้นงานผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เผยแพร่สู่สาตามวลชนอย่างไกล เดิมการพัฒนาเว็บเพจจะใช้โปรแกรมประเภท Text Editor โดยผู้พัฒนาจะต้องศึกษาภาษา HTML ซึ่งสร้างภาระให้กับผู้สนใจในกลุ่มที่ไม่ได้ศึกษาด้านไอทีมาโดยตรงรวมทั้งปัจจุบันเทคโนโลยีเว็บเพจได้เปลี่ยนรูปแบบไป 

หลักการออกแบบเว็บเพจ
                การออกแบบเว็บเพจและพัฒนาเว็บเพจ สามารถทำได้หลายระบบ ขึ้นอยู่กับลักษณะของข้อมูล ความชอบของผู้พัฒนา ตลอดจนกลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องการนำเสนอ เช่น หากกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กวัยรุ่นและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับ ความบันเทิง อาจจะออกแบบให้มีทิศทางการไหลของหน้าเว้บที่หลากหลายใช้ลูกเล่นได้มากกว่าเว็บที่นำเสนอให้กับผู้ใหญ่ หรือเว็บด้านวิชาการ

ขั้นตอนการพัฒนาเว็บเพจ
                การพัฒนาเว็บเพจที่ดี ควรมีการวางแผนก่อนเสมอ เพื่อให้การเสดงผลเว็บถูกต้อง ตรงกับความต้องการเพราะขบวนการพัฒนาเว็บเพจ จะต้องเกี่ยวข้องกับระบบปฏิบัติการ (Openrating System:OS)หลายระบบ กล่าวคือ ขณะที่สร้างเอกสารเว็บ ผู้พัฒนาอาจจะใช้คอมพิวเตอร์ที่มีระบบปฏิบัติการดอส (DOS) หรือไม่ก็ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 95 แต่หลังจากที่พัฒนาเสร็จแล้วจะต้องทำการโอนเอกสารเว็บไปเก็บไว้ในเครื่องแม่ข่าย ซึ่งมักจะเป็นระบบปฏิบัติการ Unix  หรือไม่ก็  Windows NT  เอกสารเว็บที่ทำการโอนไปยังเครื่องแม่ข่ายนี้ อาจจะถูกเรียกดูจากคอมพิวเตอร์ระบบอื่น ๆ

การวางแผนพัฒนาเว็บเพจ
                การวางแผนเพื่อพัฒนาเว็บเพจ เป็นขั้นตอนสำคัญขั้นตอนหนึ่ง เพราะเอกสารเว็บที่สร้าง จะเพิ่มจำนในเรื่อย ๆ และมีจุดเชื่อม (Link) จำนวนมาก หากไม่มีการวางแผนไว้ก่อน จะทำให้การปรับปรุง แก้ไขเดปัญหาได้ง่าย ปัญหาที่ประสบแน่นอนคือ ลืมว่าไฟล์ที่เคยสร้างไว้แล้ว มีชื่ออะไรบ้าง ซึ่งจะส่งผลให้การทำจุดเชื่อมเกิดปัญหาตามไปด้วย เพราะไฟล์เหล่านี้ อาจจะทิ้งช่วงเวลานานพอสมควร จึงจะปรับปรุงอีกครั้งวิธีการที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว ควรวางแผนออกแบบเอกสารเว็บบนกระดาษ และกำหนดชื่อไฟล์ของเอกสารเว็บแต่ละไฟล์ จากขั้นตอนนี้จะทำให้ ผู้พัฒนาสามารถมองเห็น ภาพการไหล (Data Flow) ของเอกสารเว็บได้ชัดเจน และพิจารณาต่อได้ว่า เอกสารเว็บแต้ละไฟล์ มีความสัมพันธ์กับเอกสารอื่น ๆ อย่างไรและสัมพันธ์กับไฟล์เอกสารใดบ้าง

การสร้างเว็บเพจด้วยโปรแกรม   Microsoft Word 2003
1         เริ่มเข้าสู่โปรแกรม  Microsoft Word 2003
2         ทำการสร้างเว็บเพจใหม่ โดยใช้คำสั่งแฟ้ม     สร้าง
3         คลิกเลือก เว็บเพจ
4         เลือกคำสั่ง รูปแบบชุดรูปแบบ
5         คลิกเลือกชุดรูปแบบที่ต้องการโดยดูตัวอย่างในกรอบด้านขวา
6         คลิกที่ปุ่ม ตกลง
7         ใส่เนื้อหาลงในเว็บเพจ เช่น ข้อความ รูปภาพ เป็นต้น จัดรูปแบบให้สวยงาม


คำถามท้ายบท


1.        ในชุดเอกสารเว็บ เอกสารหน้าแรกเรียกว่าอะไร
ก.       Web Page
ข.      Web Site
ค.      Home Page
ง.       First Page
2.       ในชุดเอกสารเว็บ เอกสารแต่ละหน้าเรียกว่าอะไร
ก.      Web Page
ข.      Web Site
ค.      Home Page
ง.       First Page
3.       ข้อดีของการพัฒนาเว็บเพจด้วยการลงรหัส HTML ด้วยโปรแกรม Simple Text Editor คืออะไร
ก.       พัฒนาง่าย
ข.      เห็นผลลัพธ์ทันที
ค.      สามารถลงรหัสใหม่ ๆ ตามต้องการ
ง.       ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง
4.       ข้อใด ไม่ใช่ ลักษณะการออกแบบเว็บเพจ
ก.       Hierarchy
ข.      Linear
ค.      Combination
ง.       Circle
5.       ข้อใด ไม่ใช่ ข้อกำหนดพื้นฐานในการพัฒนาเว็บเพจ
ก.      กำหนด URL
ข.      กำหนดชื่อโฟลเดอร์
ค.      กำหนดชื่อไฟล์เอกสาร
ง.       กำหนดชื่อไฟล์รูปภาพ

6.       ชื่อไฟล์แรกของเอกสารเว็บควรใช้ชื่ออะไร
ก.       First
ข.      Index
ค.      Page
ง.       ชื่อที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา
7.       นามสกุลของเอกสารเว็บ คืออะไร
ก.       .htm
ข.      .html
ค.      ถูกทั้งข้อ ก และข้อ ข
ง.       ไม่มีคำตอบที่ถูกต้อง
8.       ข้อใดเป็นลักษณะของข้อความที่เป็น Title  ของหน้าเว็บ
ก.       ภาษาไทยหรืออังกฤษ
ข.      มีความยาวไม่เกิน 64 ตัวอักษร
ค.      มีความหมายเกี่ยวข้องกับเนื้อหา
ง.       ถูกทุกข้อ
9.       ข้อใด ไม่ใช่ รูปแบบการแสดงผลของหน้าเว็บ
ก.       แสดงผลเครื่องหน้า
ข.      แสดงผลทั้งหน้า
ค.      แสดงผลด้วยตาราง
ง.       แสดงผลด้วยเฟรม
10.   ข้อใด ไม่ใช่ วิธีการในการสร้างไฮปอร์ลิงค์
ก.       ใช้ข้อความ              ข.  ใช้เสียง        
ก.       ใช้รูปภาพ            ง.  ใช้เมนู